เริ่มจากร่วมสนุกกับ เพจ ดูที่พัก จึงได้บัตรเข้าชมฟรี 2 ท่าน เมื่อได้ฤกษ์วันหยุดจึงพากันไป พ่อ แม่ และลูกชายอายุไม่ถึง 9 ขวบและความสูงไม่เกิน 90 ซม.ไม่ต้องเสียค่าเข้า สรุปฟรียกแก๊ง
ขับรถโดยใช้ถนนเส้นพุทธมณฑลสาย5 ไม่หลงแน่นอน มีป้ายบอกทางชัดเจน
8.30น.โดยประมาณมาถึงที่หมาย รถยังน้อยจึงได้ที่จอดรถ ไม่โดนแดดเพราะเงาจากร่มไม้หลายต้นที่ปกคลุมอยู่
ทริปนี้ คุณแม่เป็นตากล้อง ส่วนนายแบบคือ สองพ่อลูกสุดหล่อ.
เมื่อมาถึงทางเข้าด้านหน้า มีจุดให้ถ่ายรูปคู่กับเสือ. ถ่ายแบบนี้ไม่เสียว เพราะไม่ได้เข้าไปใกล้ชิดกับเสือ จึงฟรี 100บาท.อีกด้านจะเป็นช้างน้อย 3 ตัว รอโพสท่าเก๋ๆ ถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว ตรงนี้ไม่คิดเงิน แล้วแต่จะทิปค่ะ
เดินเล่นกันซักพัก ก็มีเสียงประกาศให้เข้าชมการแสดงที่บ่อจระเข้. หวาดเสียวดีแท้แค่ไหน ต้องลองไปชมการแสดงสดค่ะ.การแสดงใช้เวลาประมาณ 25นาที.
หลังจากนั้น เราก็เดินไปให้อาหารจระเข้กัน โครงไก่ถังละ 20บาท.และบ่อจระข้ก็สะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นเลย.
จระข้ตัวใหญ่และเยอะมาก.แต่ขอไม่โชว์รูปเยอะเสียว
ต้องขอชมว่า ทางเดินภายในสถานที่นี้ร่มรื่นด้วยต้นไม้ ไปตลอดการเดินทางไม่ต้องใช้ร่มที่พกไปเลยค่ะ.และที่นี่ไม่ได้มีแต่จระเข้นะคะ ยังมีสวนสัตว์ขนาดย่อมๆด้วย มีทั้ง ลิง กิ้งก่ายักษ์ งู ฯลฯ ดูไม่หมดค่ะ
เสียดายครั้งนี้ ไม่ได้แวะชม อุทยานปลาน้ำจีด และ ปราสาทผีสิง ขี่ช้างลอดน้ำตก (ซึ่งเป็นโปรแกรมเสียเงินเพิ่ม)จากนั้นเสียงตามสายก็แจ้งให้เราไปชมการแสดงมายากล.(อันนี้ฟรี รวมกับค่าเข้าแล้ว ซึ่งก็ฟรีจากเพจค่ะ)
ใช้เวลาประมาณ 20-25นาทีเช่นกัน.หลังจากนั้นชมการแสดง ของช้างค่ะ ทั้งตีกลอง เต้นระบำ เตะฟุตบอล
ระหว่างการแสดงจะมีพนักงานมาเดินขาย ขนม น้ำ เบียร์ ถึงที่นั่ง อิ่มอร่อยไม่ต้องลุกไปไหน ราคาจะแพงกว่าปกติ 5-10บาทเท่านั้น.
และการแสดงสุดท้ายจะเป็น การทำสงครามชนช้าง ที่เราคุ้ยเคยในชื่อ ยุทธหัตถึ
การแสดงจะมีการยิงปืนใหญ่ เสียงระเบิดดังตูมตามเหมือนในโบร์ชัวร์ไม่มีผิด เล่นเอานายแบบร้องไห้ตกใจเลยทีเดียว
ตากล้องเองก็มัวแต่ตกใจ เลยไม่มีรูปจากเลนส์ มินิไอแพด มาโชว์ จึงขอแปะรูปจากเวปค่ะ.
เมื่อจบการแสดงก็จะมีการถ่ายรูปคู่กับนักแสดงฟรี.ขอจบการรีวิวครั้งนี้ ด้วยรูปครอบครัวเล็กๆ น่ารักๆ ค่ะ.ขากลับเราแวะไหว้พระทำบุญที่วัดไร่ขิง และแวะหาของกินตลาดน้ำดอนหวาย ซึ่งเป็นทางผ่านกลับเข้ากรุงเทพฯ. ขอขอบคุณกิจกรรมดีดี จาก ดูที่พัก และหวังว่าจะมีกิจกรรมดีดีแบบนี้อีกค่ะ.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น