รีวิว โรงแรมรัตนปุระ บีช รีสอร์ท แหลมเสด็จ จ.จันทบุรี

เดือนพฤศจิกายน เป็นปลายฝนต้นหนาวแล้ว ทะเลแถบฝั่งตะวันออก น้ำจะใส คลื่นไม่แรง แต่อาหารทะเลราคาจะสูงขึ้นกว่าหน้าผลไม้เช่นเดือนเมษายน-มิถุนายน ซึ่งถ้าเป็นช่วงนั้น คุณจะได้ชิมทุเรียน เงาะ มังคุด และอาหารทะเลราคาถูกจุใจเลยทีเดียว.เมื่อตัดสินใจหาที่พักริมทะเลแบบไม่มีถนนกั้น ไม่นอนบนตึก มองเห็นทะเลจากในที่พัก น้ำทะเลลงเล่นได้ ขับรถไปไม่ไกลจากรุงเทพฯ ราคาไม่เกิน 2,000 บาทต่อคืน .

โรงแรมรัตนะปุระ แหลมเสด็จ จ.จันทบุรี คือคำตอบสุดท้าย.

โรงแรมนี้ตั้งอยู่เป็นอันดับ 3 จากโรงแรมสุดปลายแหลมเสด็จ.ด้านหน้าของโรงแรมติดถนน มีป้ายโรงแรมชัดเจน

ที่จอดรถกว้างขวาง แต่ไม่ค่อยมีที่บังแดด.ล็อบบี้เล็กๆ อยู่ถัดไปจากตึกห้องประชุม.เช็คอิน 14.00น.เช็คเอาท์ 11.00น.

พนักงานใส่ชุดฟอร์มทุกคนทำให้แยกออกจากแขกชัดเจน.การให้บริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มารยาทดี ตั้งแต่พนักงานยกกระเป๋า พนักงานต้อนรับ พนักงานห้องอาหาร บริการดีน่าประทับใจ.เหมาะสมกับระดับ 3 ดาว

การเข้าพักครั้งนี้ จองกับ AGODA วันที่จองเสาร์-อาทิตย์ จึงได้ราคาพิเศษเพราะเป็นการเฉลี่ยวัน WEEKDAY กับ WEEKEND ราคาที่ได้จึงไม่เกิน 2,000บาทสำหรับห้อง HONEY SUITE. และนี่คือราคาจองตรงกับโรงแรมปัจจุบัน

ถ้าดูตามแผนผัง แถวหน้าสุดติดทะเลจะเรียกว่า HONEY BEACH แถว 2 จะเป็น HONEY SUITE แถวสุดท้ายจะเป็น COCY ROOM. สำหรับหลังที่เป็น SUPER คือห้องพักที่มี 4 ที่นอนในหลังเดียวกัน.

จะเห็นว่า บ้านพักปลูกเรียงสลับฟันปลากัน ทำให้ทุกหลังมีวิวทะเล.วิวทะเลมากน้อยแปรผันตามระยะใกล้ไกลและราคา.จ่ายค่ามัดจำกุญแจ 500บาทแล้ว ได้บ้านพัก B4 จะอยู่ฝั่งที่มีเฉพาะ บ้านแบบเป็นหลังๆ และใกล้สระว่ายน้้ำ

ทางเดินสัญจร ระหว่างห้องพัก สระว่ายน้ำ ชายหาด ห้องอาหาร ที่จอดรถ สะดวก เดินไม่ไกล.

สระว่ายน้ำ สะอาด ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป มีเก้าอี้ให้นอนอาบแดดรอบๆสระ.

ทางเดินสบายๆ มีต้นไม้หน้าบ้านทุกหลัง.

วิวทะเลจากบ้านพักแถวด้านหน้าสุดติดทะเล.HONEY BEACH.

พักด้านหน้าสุดจะได้พื้นที่ส่วนทีติดกับชายหาด เสียดายที่นี่ไม่ให้ประกอบอาหาร เรื่องบาบีคิวริมทะเลลืมไปได้เลย

บ้านพักแถวหน้า.ที่ระเบียงจะมีเก้าอี้นอนปรับได้ 2 ตัว.

และนี่เป็นวิวของบ้านพักแถว 2 .HONEY SUITE.

ขนาดของบ้านพัก พื้นที่ใช้สอยมีเท่ากัน ต่างกันตรงเก้าอี้หน้าห้องพัก และวิวทะเลเท่านั้น

ระบียงหน้าบ้านพักพื้นที่เพียงพอสำหรับนั่งสังสรรค์ได้ 4-5คนเลย. ตรงราวระเบียงไม้ตากผ้าได้แห้งเร็วดี

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเห็นเตียงนอนขนาดใหญ่ ที่นอนไม่นุ่มและแข็งเกินไปกำลังนอนสบาย ห้องสะอาด ไม่มีกลิ่นอับชื้น ผนังห้องสีขาวเหมือนเพิ่งทาสีมาใหม่

โซฟาปูนน่ารักๆ พร้อมหน้าต่างกระจกบานใหญ่มาก สามารถเปิดแล้วเดินออกไปที่หน้าระเบียงได้เลย วิวจากตรงโซฟาก็มองออกไปเห็นทะเลได้ สีสันของโซฟาช่างเข้ากับเบาะ และบรรยากาศของห้องดีนัก

TV LCD 32” นอนดูได้เพลินๆ จากบนเตียงเลย.ไวไฟสัญญาณดีแต่ต้องเปลี่ยนรหัสทุกวัน ส่วนโต๊ะที่มีให้พร้อมเก้าอี้ เพื่อนั่งแต่งตัวหรือนั่งทำงานนั้น ดูแล้วไม่ค่อยเข้ากับห้องเท่าไหร่.ไม่มีไดร์เป่าผม โรงแรมติดทะเลอย่างนี้ น่าจะต้องมีไว้ให้แขก.

มินิบาร์ มีน้ำเปล่าให้วันละ 2 ขวด เลย์วันละ 2 ห่อ เติมให้ทุกวัน เพราะลองเก็บหมดวันต่อมาก็มาเติมให้

ห้องน้ำทำให้เรายิ้มออกอีกครั้ง การตกแต่งลงตัวดี ถึงแม้ไม่มีแปรงสีฟันกับยาสีฟันไม่มีปัญหา เพราะ 7-11 อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม.สิ่งที่ให้มาสบู่ 2 ก้อน หมวกคลุมผม สบู่เหลวอยู่ตรงเครื่องทำน้ำอุ่น กระดาษชำระตรงบริเวณชักโครกซึ่งชักโครกเป็นแบบมีสายชำระ .ที่จริงถ้าเพิ่มอ่างอาบน้ำด้วย จะดีมากที่สุด เพราะน้ำที่นี่ก็ไหลแรงและอุ่นสม่ำเสมอ

ตู้เสื้อผ้าเป็นสิ่งที่เราตามหา ชอบมาก คิดได้อย่างไรตู้บิ้วอินแบบนี้ เก๋เข้าไปอีก มีร่มแต่ไม่มีไม้แขวนเสื้อ.

มีโต๊ะเล็กๆอยู่ด้านล่าง ไม่มีตู้เซฟ.เมื่อเก็บของเรียบร้อย ออกมาดูวิวห้องพักแถวสุดท้ายกันบ้าง

เห็นทะเลจริงๆ ห้องนี้ถ้าดูราคาช่างคุ้มค่าจริงๆ ขนาดห้องและการตกแต่ภายในเหมือนกัน.ต่างกันตรงเก้าอี้ที่ระเบียง

แถมห้องพักแบบ 4 ท่าน 2ห้องนอน ระเบียงร่วมกัน พื้นระเบียงเป็นปูนพื้นที่เยอะกว่าหลังเดี่ยว แต่ถ้าเป็นอีกโซนจะเป็นห้องนอนเดียวแต่ มี 4 เตียง.ห้องนี้จะใกล้สระว่ายน้ำ.มองเห็นทะเลเช่นกัน

มื้อเช้าวันจันทร์ แขกเข้าพักไม่เต็มแล้ว โรงแรมจัดให้ทานที่ห้องอาหารด้านใน

อาหารที่ได้เป็นชุด คนละ 1 ชุด ขนมปังปิ้งกับกาแฟ และน้ำส้มคั้น เสริฟฟรี แต่ถ้าเติม ชุด ABF 200 บาท,ชุดข้ามต้มทะเล 100บาท,ข้าวต้มหมูกับข้าวต้มไก่ 60บาท.ได้ยินราคาแล้วคิดถึงบุฟเฟ่ต์วันอาทิตย์เลยทีเดียว